We don't have an overview translated in English. Help us expand our database by adding one.

We don't have an overview translated in English. Help us expand our database by adding one.

We don't have an overview translated in English. Help us expand our database by adding one.

We don't have an overview translated in English. Help us expand our database by adding one.

We don't have an overview translated in English. Help us expand our database by adding one.

We don't have an overview translated in English. Help us expand our database by adding one.

We don't have an overview translated in English. Help us expand our database by adding one.

We don't have an overview translated in English. Help us expand our database by adding one.

We don't have an overview translated in English. Help us expand our database by adding one.

We don't have an overview translated in English. Help us expand our database by adding one.

We don't have an overview translated in English. Help us expand our database by adding one.

We don't have an overview translated in English. Help us expand our database by adding one.

We don't have an overview translated in English. Help us expand our database by adding one.

We don't have an overview translated in English. Help us expand our database by adding one.

We don't have an overview translated in English. Help us expand our database by adding one.

"Observations, Analyses and Goodbyes" is a 16-minute visit with the writers and producers of the series, who discuss what they were trying to attempt with this wrap-up season and avenues they wanted to explore.

We don't have an overview translated in English. Help us expand our database by adding one.

"Frasier Says Farewell" is a 13-minute piece that offers interviews with the cast.

We don't have an overview translated in English. Help us expand our database by adding one.

จิตแพทย์ เฟรเชอร์ เครน กลับไปยังบ้านเกิดของเขาในซีแอตเทิลเพื่อจัดรายการทอล์คโชว์ทางวิทยุ แต่ไม่นานเขาก็พบว่าเขาจะต้องบำบัดตัวเองเมื่อพ่อผู้พิการของเขาได้ย้ายเข้ามาอยู่ด้วย

เฟรเซอร์เบื่อหน่ายกับการขาดความเป็นส่วนตัวทั้งที่บ้านและที่ทำงาน เขาคิดว่าถึงเวลาแล้วที่พ่อของเขาจะต้องย้ายออกไป

ความขัดแย้งเรื่องของวัฒนธรรมทางอาหารเกิดขึ้น เมื่อเฟรเชอร์และไนล์สไปทานมื้อค่ำกับพ่อที่ร้านอาหารโปรดของเขา

หลังจากแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอันรุนแรงกับบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ เฟรเชอร์ก็ได้เผชิญกับความท้าทายในการดวลหมัดกับเขา

เฟรเชอร์รับบทเป็นพ่อสื่อให้กับพ่อของเขาและสาวโสดผู้เพียบพร้อมที่พ่อแอบส่องทางกล้องโทรทรรศน์

เฟรเซอร์โกรธมากเมื่อรู้ว่างานศิลปะชิ้นล่าสุดที่เขาซื้อมาเป็นของเก๊

เฟรเชอร์เผชิญกับภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องอาชีพการงาน เมื่อเขาเริ่มออกเดทกับอดีตแฟนสาวของหนุ่มที่โทรมาในรายการวิทยุของเขา

เฟรเชอร์และไนล์สเห็นพ่อทานอาหารกับคนรู้จักของครอบครัว พวกเขาคิดว่ามาร์ตินเคยมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนนั้น

เมื่อเฟรเชอร์ถูกหลอกให้ขายของในรายการวิทยุ ก็ทำให้มีการวิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือในอาชีพของเขา

เฟรเชอร์มีส่วนในการสร้างข่าวลือจนทำให้บูลด็อกต้องตกงาน

เพื่อนร่วมงานที่ดูสุขภาพดีเสียชีวิตอย่างกะทันหัน เฟรเชอร์จึงเริ่มหมกมุ่นอยู่กับความตายของตัวเอง

เมื่อลูกชายของเฟรเชอร์มาใช้เวลาในช่วงวันหยุดกับเขาไม่ได้ เฟรเชอร์ผู้เศร้าโศกจึงได้เรียนรู้ถึงจิตวิญญาณที่แท้จริงของคริสต์มาสจากกลุ่มคนแปลกหน้า

มาร์ตินโกรธเฟรเชอร์ที่เปิดเผยความลับเกี่ยวกับชีวิตรักของเขาออกอากาศ

เฟรเชอร์ตั้งตารอที่จะมีเดทสุดฮอตกับนางแบบสาวสวยที่ "ซื้อ" เขามาจากงานประมูลหนุ่มโสดคนดัง

หลังจากที่เฟรเชอร์บอกว่าเขาสามารถมองเห็นอาชญากรในฝูงชนได้ มาร์ตินก็ท้าให้เขาหาตัวอดีตคนโกงในกลุ่มเล่นไพ่โป๊กเกอร์ของเขา

หลังจากพบจดหมายคืนดีที่หายไปจากเฟรเชอร์ ลิลิธก็มาที่ซีแอตเทิลและพยายามจุดถ่านไฟเก่าของทั้งคู่อีกครั้ง

ไนลส์เผชิญกับสิ่งยั่วยวนใจในตอนที่เขากับดาฟนี่ติดอยู่ในบ้านของเขาระหว่างเกิดพายุอันรุนแรง

เมื่อรายการวิทยุของเฟรเชอร์ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลการกระจายเสียงในท้องถิ่น รอซแนะนำให้ "โน้มน้าว" กรรมการด้วยการมอบของขวัญให้พวกเขา

เฟรเซอร์เรียนรู้ว่าความรู้สึกสำคัญกว่าความสวยงาม หลังจากที่เขาทำเก้าอี้ตัวเก่าของพ่อหายไปโดยไม่ได้ตั้งใจ

ด้วยอาการตื่นตระหนกเมื่อใกล้จะแก่ตัวลง เฟรเชอร์จึงพยายามตามสาวสวยคนหนึ่งที่แสดงความสนใจในตัวเขาเพื่อปลอบใจตัวเอง

ความพยายามของเฟรเชอร์ในช่วงวันหยุดของพ่อลูกกลายเป็นการเดินทางที่เจ็บปวด โดยมีไนล์สและดาฟนี่ร่วมเดินทางไปด้วย

เฟรเชอร์และไนล์สพยายามช่วยกันเขียนหนังสือ แต่กลับลงเอยด้วยการทะเลาะกัน

ขณะที่เฟรเชอร์ป่วยเป็นไข้หวัดอยู่ที่บ้าน เขาก็เกิดอาการหวาดระแวงว่าทุกคน รวมถึงไนล์ส น้องชายของเขาเองจะมารับช่วงต่อรายการวิทยุของเขา

คำถามที่ทำให้เกิดบทสนทนาที่ตลกขบขันและเปิดใจต่อกันในครอบครัวเกิดขึ้น เมื่อไนล์สถามเฟรเชอร์ว่าเขามีความสุขไหมหลังจากกลับมาใช้ชีวิตหนึ่งปีที่ซีแอตเทิล

หลังจากที่เอ็ดดี้กลายเป็นพ่อของลูกสุนัขไร้พ่อครอกหนึ่ง เฟรเชอร์ก็ตลบหลังมาร์ตินเพื่อพาเอ็ดดี้ไปทำหมัน

เฟรเชอร์พบว่าหนังสือที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าคือเรื่องจริงที่อิงมาจากความสัมพันธ์ของเขากับหญิงที่แก่กว่า

เฟรเชอร์และไนล์สอารมณ์เสียเมื่อรู้ว่าพวกเขาได้ลงทุนในบริษัทที่วางแผนจะรื้อสถานที่สังสรรค์สุดโปรดของพ่อ

แผนการของเฟรเชอร์ในการ "จับคู่" ดาฟนี่กับเจ้านายคนใหม่ของเขาต้องล่มลงไป เมื่อเฟรเชอร์ไปล่วงรู้ความลับของเขาเข้า

หลังจากเห็นผู้หญิงคนหนึ่งคลอดลูกต่อหน้า ไนล์สคิดว่าถึงเวลาฝึกฝนทักษะการเป็นพ่อของเขากับกระสอบแป้ง!

หลังจากที่มาร์ตินประกาศว่าเขาสนับสนุนผู้สมัครทางการเมืองหัวรุนแรง เฟรเชอร์และไนล์สก็ตัดสินใจว่าจะสนับสนุนศัตรูตัวฉกาจของเขา

เฟรเชอร์ต้องอดทนกับความโกรธเกรี้ยวของชาวเมืองซีแอตเทิลหลังจากที่เขา "โจมตี" ทั้งเมืองด้วยการปราศรัยออกอากาศอย่างเผ็ดร้อน

ความสัมพันธ์ที่กำลังเริ่มต้นขึ้นของเฟรเชอร์ถูกทดสอบเมื่อเขาได้พบกับลิลิธ อดีตภรรยาในระหว่างไปเที่ยวพักผ่อนกับคนรักใหม่ของเขา

ความหึงหวงปะทุขึ้นเมื่อเฟรเชอร์บังเอิญเจอลิลิธกับแฟนใหม่ขณะที่เขาก็ไปเที่ยวกับแฟนใหม่ของเขา

มาร์ตินพบว่ามันยากที่จะ "ให้อภัยและลืม" ได้ เมื่อเขาบังเอิญไปเจออดีตเพื่อนตำรวจที่อยู่ในโรงพยาบาล

เฟรเชอร์และไนล์สเผชิญหน้ากับอันธพาลที่เคยกลั่นแกล้งพวกเขาในโรงเรียนมัธยมต้น

รอซและเฟรเชอร์พบว่าการแยกทางเป็นเรื่องยากที่จะทำใจได้ หลังจากที่รอซรับงานใหม่ในตำแหน่งโปรดิวเซอร์ของบูลด็อก

เฟรเซอร์รับบทเป็นนักสืบสมัครเล่นหลังจากง่วนอยู่กับความหมกมุ่นของมาร์ตินในคดีฆาตกรรมที่ยังไม่คลี่คลายมากว่า 20 ปี

เฟรเชอร์ตกหลุมรักนักจิตวิทยากระแสนิยมทีสวยตะลึงจนทำให้เขามองไม่เห็นความจริงที่ว่าเขาไม่เคารพความเชื่อ "ยุคใหม่" ของเธอ

การแข่งขันระหว่างพี่น้องปะทุขึ้นเมื่อเฟรเชอร์และไนล์สแข่งกันเพื่อเป็นสมาชิกในคลับชายสุดพิเศษ

หลังจากที่โจรขโมยกระเป๋าเอกสารและรถของเฟรเชอร์ไป เขาก็วางกับดักเพื่อจับหัวขโมยคนนั้น

เฟรเชอร์ติดอยู่ในห้องของดาฟนี่ ความพยายามของเขาที่จะแก้ปัญหาการละเมิดความเป็นส่วนตัวของเธอมีแต่จะทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก

เฟรเชอร์โดนเซอร์ไพรส์ด้วยการมาของแซม มาโลน คู่หูชาวบอสตัน ผู้ซึ่งเพิ่งทิ้งแฟนสาวให้ยืนเก้ออยู่ที่แท่นพิธีแต่งงาน

เฟรเชอร์และไนล์สตัดสินใจซื้อร้านอาหารเก่าแก่และดีที่สุดแห่งหนึ่งในซีแอตเทิลด้วยความตั้งใจ

เฟรเชอร์รับรู้ว่าภรรยาของไนล์สอาจมีความสัมพันธ์กับครูสอนฟันดาบของเธอ

ผู้แทนหัวดื้อของเฟรเชอร์ใช้มาตรการที่รุนแรงเพื่อต่อรองสัญญาใหม่กับสถานีวิทยุ

ความเอาใจใส่ที่มากเกินไปของแฟนๆ ทำให้เฟรเชอร์กลัวว่าเขาจะตกเป็นเป้าของนักสะกดรอยตามจอมหมกมุ่น

เฟรเชอร์ติดอยู่ในกระท่อมตกปลาน้ำแข็งหลังเก่าทั้งคืน และเผชิญหน้ากับปัญหาเมื่อพ่อพูดคำว่า "ฉันรักแก" กับลูกชายของเขาไม่ได้

เพื่อนและครอบครัวของเฟรเชอร์มารวมตัวกันในงานปาร์ตี้วันเกิดของมาร์ติน แต่ไม่นานเฟรเชอร์ก็พบว่าตัวเองเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยปัญหาของทุกคน

เมื่อเฟรเชอร์ปฏิเสธที่จะปรับเปลี่ยนรายการของเขาให้เข้ากับเจ้านายหญิงคนใหม่ เธอเลยเนรเทศเขาไปทำงานที่ "ป่าช้า"

การทำจิตบำบัดระหว่างเฟรเชอร์และไนล์สนำมาซึ่งสิ่งที่เลวร้ายที่สุดในความสัมพันธ์ของพวกเขา

การจากไปของยายทวดของเฟรเชอร์สร้างแรงบันดาลใจให้มาร์ตินไล่ตามความฝันของชีวิตในการเขียนเพลงให้กับแฟรงค์ ซินาตรา

เฟรเชอร์ตัดสินใจตอบโต้ความขี้แกล้งของบูลด็อกด้วยกลอุบายของตัวเอง ซึ่งทำให้ผู้จัดการสถานีคนใหม่ต้องเข้าโรงพยาบาล

ขณะที่เฟรเชอร์เตรียมจัดงานปาร์ตี้สำคัญอย่างทุ่มเท ไนล์สก็พยายามห้ามไม่ให้ดาฟนี่มีสัมพันธ์รักกับผู้รับจ้างจัดงานของเฟรเชอร์

ความสัมพันธ์ด้านแรงงานเปลี่ยนจากครุกรุ่นเป็นเร่าร้อน เมื่อเฟรเชอร์และเจ้านายของเขาเจรจาเรื่องการเพิ่มพนักงานและเกิดความหลงใหลที่ไม่คาดคิดต่อกันขึ้น

เฟรเชอร์และเคทสาบานว่าจะยุติความโรแมนติกในที่ทำงาน แต่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้เลย!

ไนล์สทำตามคำแนะนำของเฟรเชอร์ที่ให้แข็งข้อต่อมาริส แต่เธอโต้ตอบด้วยการขอหย่า

เฟรเชอร์ตื่นเต้นมากที่ลูกชายเขาจะมาเยี่ยมในวันคริสต์มาส แต่เขากลับถูกบังคับให้ออกไปห้างในคืนก่อนวันคริสต์มาสเพื่อค้นหาของขวัญที่ใช่

เฟรเชอร์เพิ่งรู้ตัวว่าเขามีความรู้สึกดีให้เคท ในตอนที่เธอประกาศว่ากำลังจะย้ายไปที่ชิคาโก

เฟรเชอร์ผูกมิตรกับบ็อบ ชายนั่งรถเข็น ผู้ที่เฟรเชอร์ไม่มีความคิดที่จะ "ทิ้ง" ไปไหนเลย หลังจากที่พบว่าพวกเขาไม่มีอะไรที่เหมือนกันสักนิด

เฟรเชอร์รู้สึกไม่สบายใจเมื่อแฟนหนุ่มของดาฟนี่พักค้างคืนอยู่ในห้องของเธอ แต่ไม่นานเขาก็พบว่าเขายิ่งรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้นกับการที่ดาฟนี่อาจจะย้ายออกไปจากบ้าน

ไนล์สรู้ว่าถึงเวลาที่เขาเริ่มออกเดทอีกครั้งแล้ว เขาจึงพาดาฟนี่ไปร่วมงานสังสรรค์

การเดินทางมาถึงซีแอตเทิลของไดแอน แชมเบอร์สทำให้เฟรเชอร์รู้สึกเหมือนกับนั่งรถไฟเหาะตีลังกา

เมื่อมาริสประสบปัญหาด้านกฎหมาย ไนล์สก็พยายามมองหาความช่วยเหลือจากบุคคลลึกลับที่จะช่วยแก้ปัญหานั้นเพื่อแลกกับ "ความช่วยเหลือ" ในอนาคต

เพื่อเป็นเกียรติแก่ปีอธิกสุรทิน เฟรเชอร์กระตุ้นให้เพื่อนและสมาชิกในครอบครัวลองทำอะไรที่ท้าทาย แต่ "การก้าวกระโดด" ของพวกเขากลับไม่เป็นไปตามที่คาดไว้

ด้วยความเสียใจจากสิ่งที่ตัวเองทำ เฟรเชอร์กลายเป็นฮีโร่ประจำถิ่นหลังจากทำร้ายร่างกายลูกค้าแสนหยาบคายที่เนอร์โวซ่าคาเฟ่

เฟรเชอร์ท้าให้พ่อของเขาให้แข่งหมากรุก แต่เมื่อมาร์ตินชนะ เฟรเชอร์ก็หมกมุ่นอยู่กับการเอาชนะเขา

เฟรเชอร์และไนล์สเตรียมตัวเผชิญหน้ากันในศาลเพื่อแย่งชิงการดูแลของเศรษฐีนิสัยประหลาด

เฟรเชอร์พุ่งเป้าไปที่เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงคนหนึ่งที่จริงๆ แล้วเธอแอบชอบพ่อของเขา

เจ้าของสถานีคนใหม่ขอให้เฟรเชอร์ช่วยคู่หมั้นของเขาเลิกสูบบุหรี่ แต่เฟรเชอร์กลับตกใจเมื่อรู้ว่า "คนไข้" ของเขาคือผู้แทนที่ทำงานอย่างหนักของเขาเอง

รอซเข้าใจผิดว่าเฟรเชอร์ตกหลุมรักเธอเมื่อเขาพยายามจะยุให้เธอยุติความสัมพันธ์ครั้งใหม่

เมื่อเฟรเชอร์รู้ว่าสมาชิกคนหนึ่งในกลุ่มสนทนาไม่ชอบรายการวิทยุของเขา เขาก็ไม่หยุดที่จะหาสาเหตุให้ได้

การฟังเทปบันทึกรายการวิทยุครั้งแรก ทำให้เฟรเชอร์ต้องพบกับการเดินทางผ่านถนนแห่งความทรงจำอันแสนขรุขระ

ครอบครัวตระกูลเครนต้องพลิกผันเมื่อถ่านไฟเก่าของดาฟนี่กลับมา

เมื่อรอซนัดบอดให้กับเฟรเชอร์ บูลด็อกกลับตกหลุมรักเธอแทน

เมื่อเฟรเชอร์ตื่นขึ้นทุกคืนด้วยความฝันที่เกิดขึ้นซ้ำๆ จากนั้นเขาก็หมกมุ่นอยู่กับการวิเคราะห์ความหมายทางจิตวิทยาที่อยู่เบื้องหลังความฝันนั้น

หลังจากที่มาร์ตินมาตีสนิทกับนักเขียนผู้สันโดษที่ทั้งเฟรเชอร์และไนล์สชื่นชอบ พวกเขาก็ติดพันอยู่กับการอ่านต้นฉบับแรกในรอบหลายทศวรรษ

ขณะที่ไนล์สมารับหน้าที่แทนเฟรเชอร์ เขาก็มีชื่อเสียงหลังจากให้คำปรึกษาแก่นักบาสเกตบอลชื่อดังในท้องถิ่นซึ่งกำลังตกอับ

หลังจากที่ดาฟนี่ถูกแฟนของเธอทิ้งไป ไนล์สก็ตัดสินใจว่าถึงเวลาที่จะบอกความในใจที่มีต่อเธอ

เฟรเชอร์และลิลิธร่วมมือกันเพื่อให้ลูกชายได้เข้าเรียนในโรงเรียนเอกชนที่มีชื่อเสียงที่สุดในบอสตัน

มาร์ตินซื้อภาพวาดราคาแพงให้กับเฟรเชอร์ แต่เขากลับไม่กล้าที่จะบอกพ่อว่าเขาเกลียดภาพนั้น

เฟรเชอร์และไนล์สไม่เห็นด้วยกับความสัมพันธ์ของมาร์ตินกับแฟนใหม่ก๋ากั๋นของเขา

เฟรเชอร์พบว่าตัวเองอยู่ในสถานการณ์ล่อแหลมเมื่อเขาพยายามช่วยเหลือชีวิตคู่ที่มีปัญหาของอดีตคนรู้จักในโรงเรียนมัธยมปลาย

เมื่อเฟรเชอร์เบื่อหน่ายกับกฎเกณฑ์ของคอนโด เขาจึงตัดสินใจลงสมัครรับตำแหน่งประธานคณะกรรมการคอนโด

เมื่อเอ็ดดี้แสดงอาการซึมเศร้า นักบำบัดสัตว์เลี้ยงคิดว่าสุนัขของมาร์ตินมีการตอบสนองบกพร่องต่อครอบครัวตระกูลเครน

เมื่อพี่น้องตระกูลเครนไปเที่ยวช่วงสุดสัปดาห์กับสาวสวยสองคน ไนล์สพบว่าเขายังตัดใจจากมาริสไม่ได้

ไนล์สย้ายเข้าไปอยู่ในตึกอันหรูหราและพยายามทำให้เพื่อนบ้านหัวสูงของเขาประทับใจด้วยงานเลี้ยงอาหารค่ำสุดหรู

ขณะที่รอซเป็นอาสาสมัครในบ้านพักคนชรา เธอเริ่มเชื่อว่าเธอเป็น "นางฟ้าแห่งความตาย" หลังจากที่ผู้ป่วยสองคนแรกที่เธอดูแลอยู่เสียชีวิต

แทนที่จะแสดงให้ลูกชายเห็นว่าพ่อเขาไม่ได้สมบูรณ์แบบ เฟรเชอร์กลับตกลงที่จะเข้าร่วมทีมซอฟต์บอลของสถานีวิทยุ แม้จะไม่รู้ว่าเล่นอย่างไร

เมื่อสถานีออกอากาศจัดการออดิชั่น รอซก็ตัดสินใจไปที่นั่น แต่ตัวแทนของเฟรเชอร์มีความคิดอย่างอื่น

เมื่อเฟรเชอร์พยายามผลิตละครวิทยุสดสไตล์ปี 1940 เพื่อฉลองครบรอบ 50 ปีของสถานีวิทยุ แต่กลับทำให้เกิดความวุ่นวายแทน

ขณะที่เฟรเชอร์พยายามจัดเดตสามนัดในสามวัน มาร์ตินและแฟนสาวก็มีโอกาศที่จะเลิกกัน

เฟรเชอร์พยายามทำให้มาร์ตินและเชอร์รีคืนดีกัน แต่กลับส่งผลเสียต่อชีวิตรักของตัวเขาเอง

เฟรเชอร์และไนล์สเป็นคนกลางเมื่อแฟนสาวของมาร์ตินและดาฟนี่ไม่หยุดทะเลาะกัน

เฟรเชอร์พยายามปลอบใจไนล์สหลังจากที่มาริสเซ็นใบหย่าให้เขา

เมื่อไนล์สถามเฟรเชอร์ว่าเขาและมาริสอยู่ด้วยกันหรือไม่ เฟรเชอร์พยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้คำตอบที่จริงใจและไตร่ตรองมาอย่างดีแก่น้องชาย

เฟรเชอร์มี "อาการเศร้าของหนุ่มโสด" เมื่อเขาตระหนักว่าทุกคนที่เขารู้จักกำลังออกเดตกัน ยกเว้นเขา

ไม่มีใครเชื่อเฟรเชอร์เลย เมื่อเขาอ้างว่ากำลังออกเดทกับนางแบบชื่อดัง (เซล่า วอร์ด ดารารับเชิญ)

การแข่งขันของพี่น้องระหว่างเฟรเชอร์และไนล์สถึงจุดเดือดเมื่อพวกเขาพยายาม "ข่มกัน" กับของขวัญวันเกิดครบรอบ 65 ปีของมาร์ติน พ่อของพวกเขา

งานปาร์ตี้แต่งตัววันฮาโลวีนของไนล์สกลายเป็นเรื่องตลก เมื่อเขาเข้าใจผิดคิดว่าดาฟนี่ท้อง และเฟรเชอร์เป็นพ่อของเด็ก

เฟรเชอร์ตกตะลึงเมื่อเขารู้ตัวตนที่แท้จริงชายผู้เป็นพ่อของลูกของรอซ

ความอิจฉาและเคราะห์ร้ายต่างๆของไนล์สอาจทำให้เฟรเชอร์ไม่สามารถเข้าร่วมงานฉลองเพื่อเป็นเกียรติแก่เขาสำหรับรายการวิทยุตอนที่ 1,000 ของเขาได้

เพื่อให้ไนล์สเลิกคิดถึงปัญหาชีวิตแต่งงาน เฟรเชอร์จึงชวนเขาไปล่องเรือในอลาสก้า แต่กลับไม่บอกไนล์สว่าเขาชวนมาริสไปเป็น "เซอร์ไพรส์" ด้วย

เฟรเชอร์ตกหลุมรักทนายความผู้ทรงอำนาจ ซึ่งประสบความสำเร็จในอาชีพการงานและทัศนคติแบบเอาตัวเองเป็นหลักนั้นเปลี่ยนเฟรเชอร์ให้กลายเป็น "คนอ่อนด๋อย" ไปเลย

เมื่อเฟรเชอร์ถูกแซมแฟนสาวผู้ทรงอำนาจ "ทิ้ง" เขากลับก็ทำตัวโง่เง่าเพียงเพื่อให้ได้เธอกลับมา

ถือเป็นวันคริสต์มาสที่ต้องจดจำเมื่อมาร์ตินร้องเพลงในการประกวดที่โบสถ์ ไนล์สติดอยู่ในลิฟต์ และเฟรเชอร์เล่าเรื่องที่รอซท้องให้แม่ของเธอฟัง

ความพยายามของดาฟนี่ที่จะทำให้เฟรเชอร์รู้สึกดีขึ้นด้วยการพาเขาไปผับชาวอังกฤษที่เธอชื่นชอบกลับกลายเป็นผลตรงกันข้ามเมื่อเฟรเชอร์ตัดสินใจมาเป็นขาประจำที่กลุ่มเที่ยว "ของเธอ"

เมื่อเจอแหวนหมั้นที่ซ่อนอยู่ในลิ้นชักของพ่อทำให้ไนล์สและเฟรเชอร์ต้องสืบสวนอดีตของเชอร์รี่ ก่อนที่มาร์ตินจะมีโอกาส "ถามคำถาม"

ด้วยความเอือมระอากับบีบี้ ตัวแทนแสนโหดเหี้ยม ไม่นานเฟรเชอร์ก็ได้เรียนรู้ถึงการจ้างตัวแทนที่ "ดี" นั้นมีราคาสูงเพื่อเป็นตัวแทนของเขาในการเจรจาสัญญา

ไนล์สต้องตกใจเมื่อพบว่าที่ปรึกษาชีวิตคู่ที่เขาไว้ใจมีสัมพันธ์ชู้สาวกับมาริสลับหลังเขา

ทริปเล่นสกีช่วงสุดสัปดาห์กลายเป็นแหล่งรวมเรื่องราวสุดโรแมนติกของเฟรเชอร์ ไนล์ส และผองเพื่องของพวกเขา

การมาเยี่ยมอย่างไม่คาดคิดของลิลิธ (เบบ นิวเวิร์ท ดารารับเชิญ) ปลุกเร้ากิเลสเก่าๆ ในตัวเฟรเชอร์และกิเลสใหม่ในตัวไนล์ส

การจุดประกายไฟเมื่องานแต่งงานของครอบครัวกลับเป็นตัวจุดชนวนความบาดหมางอันยาวนานระหว่างเฟรเชอร์และป้าโซราชาวกรีกขี้โมโห (แพตตี ลูโพน์ ดารารับเชิญ)

สถานีวิทยุจ้างแพทย์สุดหล่อคนใหม่มาจัดรายการทางการแพทย์แบบโทรเข้า เฟรเชอร์ผู้มีอีโก้ ตั้งใจที่จะค้นหาข้อบกพร่องในตัวเพื่อนร่วมงานคนใหม่ของเขาที่ดูเหมือน "สมบูรณ์แบบเกินไป" หน่อย

เมื่อบูลด็อกแย่งเครดิตมาอย่างผิดๆ จากการขัดขวางการปล้นและช่วยชีวิตรอซ เฟรเชอร์จึงตั้งใจที่จะ "จัดการ" บูลด็อก

เฟรเชอร์ต้องเลือกระหว่าง "ราคะ" สำหรับการเผด็จศีกครั้งล่าสุดของเขาและการตระหนักว่าพวกเขาไม่มีอะไรที่เหมือนกันนอกจากเซ็กส์อันสุดเหวี่ยง

ไนล์สขอให้ดาฟนี่ช่วยเขาวางแผนเดตอาหารค่ำปลอมๆ กับเพื่อนบ้าน เพื่อที่เธอจะได้ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วเขาแคร์เธอมากแค่ไหน

รอซกังวลเกี่ยวกับชะตากรรมของลูกคนใหม่ของเธอ เมื่อเธอพบว่าปู่ย่าของลูกมีจมูกที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็นมา

ด้วยความสิ้นหวังที่จะสานสัมพันธ์ความรัก เฟรเชอร์และไนล์สร่วมกันจัดงานปาร์ตี้คนโสดและลงเอยด้วยการแย่งชิงความรักจากผู้หญิงคนเดียวกัน

เฟรเชอร์พยายามอยู่ในสถานที่สามแห่งพร้อมๆ กันในขณะที่เขาพยายามทำให้แฟนสาว น้องชาย และพ่อของเขามีความสุข

เมื่อเฟรเชอร์เป็นผู้นำการประท้วงเรียกร้องให้มีการปฏิบัติต่อพนักงานในสถานีวิทยุให้ดีขึ้น หัวหน้าของบริษัทแม่ของสถานีก็ไล่พวกเขาออกทุกคน

เมื่อเฟรเชอร์ดูเหมือนจะไม่ยอมรับเรื่องที่เขาตกงาน ไนล์ส รอซ และมาร์ตินร่วมมือกันเพื่อพาเขากลับมาสู่ความเป็นจริง

เฟรเชอร์ไม่กล้าไปร่วมงานรวมตัวที่โรงเรียนมัธยมปลายของเขา ซึ่งดูเหมือนจะเกิดขึ้นพร้อมกับช่วงตกต่ำในชีวิตของเขาเสมอ

ไนล์สไม่ดีใจนักเมื่อพ่อของเขาจะย้ายเข้ามา จนกว่าเขาจะรู้ว่าดาฟนี่เป็นส่วนหนึ่งของการย้ายมาครั้งนี้ด้วย

เฟรเชอร์และไนล์สจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อซื้อตั๋วเข้าชมการแสดงที่ยอดนิยมที่สุดในเมือง

เฟรเชอร์สงสัยว่าแฟนสาวคนใหม่แสนสวยของเขากำลังใช้เขาเพื่อรับคำแนะนำด้านจิตเวชฟรี

เฟรเชอร์หลงเชื่อแบบผิดๆ ว่าเขามีคนแอบชอบอยู่แล้วจึงเสี่ยงกับความสัมพันธ์ใหม่ของเขาด้วยการพยายามเพิ่มความสุขเป็นสองเท่า

หลังจากที่มาริสอายัดทรัพย์สินของไนล์ส เขาก็ถูกบังคับให้ปล่อยเช่าอพาร์ทเมนต์หรูของเขาและย้ายเข้าไปอยู่ในตึก "ราคาถูก"

แมวน้ำที่ตายแล้วทำให้งานเลี้ยงอาหารค่ำรสเลิศของไนลส์ต้อง "หยุดชะงัก"

เฟรเชอร์ให้รอซยืมเงิน 1,500 เหรียญเพื่อเลี้ยงดูเธอจนกว่าพวกเขาจะได้งานกลับคืนมา แล้วเขาก็ไม่เห็นด้วยกับวิธีที่เธอใช้เงินจำนวนนั้น

เฟรเชอร์แกล้งทำเป็นชาวยิวเพื่อปลอบใจแม่ยายคนใหม่

เฟรเชอร์ต้องการความช่วยเหลือ หลังจากถูกการทำความดีของเขาตลบหลัง

เฟรเชอร์และรอซเล่นเป็นพ่อสื่อแม่สื่อให้พ่อแม่ ซึ่งผลลัพธ์ก็ไม่เป็นอย่างที่คิด

วู้ดดี้ บอยด์ บาร์เทนเดอร์ของร้านเชียร์สอยู่นานเกินเวลาเมื่อเขามาเที่ยวที่ซีแอตเทิล

ไนล์ส เฟรเชอร์ มาร์ติน และดาฟนี่ออกเดตที่ต่างกันออกไปในวันวาเลนไทน์

ไนล์สว่าจ้างทนายความด้านการหย่าร้างคนใหม่ที่ก้าวร้าว ซึ่งอาจลงเอยด้วยการบอกความจริงต่อดาฟนี่ว่าเขาแอบชอบเธอมานานแล้ว

ไนล์ลแอบวางแผนเพื่อยุติความรักครั้งใหม่ของดาฟนี่กับทนายด้านการหย่าร้างของเขา

แผนการจัดงานเลี้ยงอาหารค่ำสุดหรูของเฟรเชอร์ถูกทำลายทุกครั้ง

เมื่อต้องเผชิญกับการถูกขับไล่โดยคณะกรรมการผู้เช่าจอมเจ้าเล่ห์ ไนล์จึงจัดงานปาร์ตี้เพื่อพยายามกลับคืนสู่สภาพเดิม

การแข่งขันระหว่างพี่น้องระหว่างเฟรเชอร์และไนล์สมาถึงจุดเดือดเมื่อพวกเขาเปรียบเทียบคะแนนไอคิวกัน

เฟรเชอร์รู้สึกหวาดกลัวเมื่อหญิงสาววาจาน่าหลงไหลที่เขาอยากให้สถานีว่าจ้างกลายเป็นเผด็จการที่พูดจาแข็งกร้าว

เฟรเชอร์เลือกไม่ถูกระหว่างการออกเดทแฟนเก่าหรือแฟนใหม่สุดเซ็กซี่

เพื่อความสุขของไนล์ส การเห็นนิมิตหลายครั้งทำให้ดาฟนี่คิดทบทวนเกี่ยวกับการแต่งงานกับดอนนี่

ด้วยความผิดหวังกับงานหมั้นของดาฟนี่ ไนล์สจึงออกไปเดินเล่นในมุมที่แสนวุ่นวายพร้อมกับพนักงานเสิร์ฟสุดเก๋จากคาเฟ่เนอร์โวซา

ชีวิตรักของเฟรเชอร์ มาร์ติน ไนล์ส และรอซพังทลายลงรอบตัวพวกเขา

แฟนสาวคนใหม่ของเฟรเชอร์เป็นคนน่ารัก เอาใจใส่ และเหมือนกับแม่ผู้ล่วงลับของเขา

ดาฟนี่ประทับใจเมื่อเฟรเชอร์ตกลงที่จะจ่ายค่าจัดงานแต่งงานของเธอ แต่ก็ต้องตะลึงเมื่อเขาเข้าควบคุมแผนงานทั้งหมด

เฟรเชอร์สาบานว่าจะแก้แค้นหลังจากคู่หู "รายการวิทยุตัวปั่น" ทำให้เขาอับอายด้วยการแกล้งกันตอนจัดรายการ

เหตุเพราะความอิจฉาที่ไนล์สเป็นนักวิจารณ์ศิลปะของนิตยสารผู้ดี ทำให้เฟรเชอร์ทุ่มสุดตัวเพื่อจัดรายการทางวัฒนธรรมทางสถานีวิทยุของเขา

รอซจ้างบูลด็อกให้ช่วยดูแลลูกสาวของเธอ โดยไม่รู้ตัวเลยว่าเขาตั้งใจจะทำลายชีวิตทางสังคมของเธอ

การแข่งขันของเฟรเชอร์และไนล์สดุเดือดขึ้น เมื่อต่างฝ่ายต่างเชื่อว่าอีกคนกำลังพยายามขโมยแฟนสาวของตัวเองไป

หลังจากเฟรเชอร์และไนล์สรู้ว่ามรดกตกทอดของครอบครัวนั้นเชื่อมโยงกับราชวงศ์โรมานอฟ พวกเขาก็ทึกทักเอาเองว่าพวกเขาอาจสืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์

การรายงานข่าวที่ผิดพลาดว่าเฟรเชอร์เสียชีวิตเป็นแรงผลักดันให้เขาปรับปรุงตัวใหม่

เมื่อลิลิธมาเยือนซีแอตเทิลในช่วงวันขอบคุณพระเจ้า เฟรเดอริกก็วางแผนอย่างลับๆ เพื่อทำให้พ่อแม่ของเขามาเจอกันอีกครั้ง

เมื่อเฟรเชอร์ต้องกินยาแก้ปวดสำหรับอาการปวดหลัง เขาจึงบอกเรื่องที่น่าใจหายกับดาฟนี่

เมื่อรู้ว่าไนล์สรักเธอ ดาฟนี่จึงถูกบังคับให้เผชิญหน้ากับความรู้สึกที่แท้จริงของเธอที่มีต่อเขา

หลังจากที่แผนวันปีใหม่ของเฟรเชอร์และไนล์สล่มไม่เป็นท่า พวกเขาก็ออกเดินทางท่องเที่ยวสุดโกลาหลกับมาร์ตินบนรถบ้านของเขา

ความพยายามของเฟรเชอร์ในการเขียนเพลงประกอบรายการที่แสนเรียบง่ายกลับกลายเป็นผลงานชิ้นเอกของเขากับมาร์ติน

“เดตในฝัน” ของเฟรเชอร์กับอดีตราชินีงานพรอมกลายเป็นฝันร้าย

มาร์ตินแสร้งทำตัวเป็นเกย์เพื่อเลิกคบกับผู้หญิงที่เขารู้สึกว่าไม่แจ่ม

เมื่อรอซลาพักร้อน ผู้คัดกรองสายโทรเข้าคนใหม่ของเฟรเชอร์จะเข้ามาแทนที่ตำแหน่งของรอซ รวมถึงรายการวิทยุของเขาด้วย

เฟรเชอร์และไนล์สระบายความในใจถึงความเลวร้ายของการแข่งขันระหว่างพี่น้องของพวกเขา เมื่อแข่งกันเพื่อแย่งชิงตำแหน่งอันทรงเกียรติในสโมสรไวน์

เมื่อไนล์สเข้าร่วมกับมาร์ตินในการสอดแนม รอซและเฟรเชอร์ก็นึกกันเล่นๆ ว่าจะแกล้งทำตัวเป็นมากกว่าเพื่อน

เฟรเชอร์ทิ้งศักดิ์ศรีในอาชีพการงานของเขามาเป็นผู้ร่วมดำเนินรายการของรายการทีวีเบาสมองช่วงเช้าร่วมกับบีบี้ ตัวแทนของเขา

นักเต้นระบำเปลื้องผ้าทำให้ความรักที่กำลังเริ่มต้นของเฟรเชอร์ปั่นป่วน มาริสพยายามทำลายความสัมพันธ์ครั้งใหม่ของไนล์ส

ความปลาบปลื้มของเฟรเชอร์ต่อการมีภาพล้อเลียนของเขาแสดงอยู่ในสถานที่สำคัญในท้องถิ่นอันโด่งดังมลายหายไปเมื่อเขาได้เห็นภาพที่ไม่ถูกใจเขาเสียเลย

การมาถึงของไซมอน น้องชายตัวแสบของดาฟนี่ปั่นประสาทเธออย่างมากจนต้องเข้ารับการบำบัดทางจิต

เมื่อดาฟนี่ตัดสินใจที่จะสารภาพรักกับไนล์ส เขากลับบอกข่าวร้ายอันน่าตกตะลึง

ในคืนก่อนวันแต่งงานของเธอ ดาฟนี่สับสนระหว่างชายที่เธอรักกับชายที่เธอจะแต่งงานด้วย

ไนล์สและดาฟนี่พากันหนีออกงานแต่งของเธอ แต่ในไม่ช้าก็พบว่าการยอมรับความรักที่แท้จริงของพวกเขามีราคาที่ต้องจ่ายอย่างสาหัส ขณะที่ดอนนี่ เจ้าบ่าวผู้ถูกทิ้ง และเมล ภรรยาผู้ขมขื่นกำลังหาทางแก้แค้น

เมลตกลงที่จะหย่ากับไนล์ส แต่ห้ามไม่ให้เขาคบกับดาฟนี่

เฟรเชอร์ขึ้นรถเมล์กับรอซเป็นครั้งแรก และเฟรเชอร์ใช้มาร์ตินเพื่อไปพบผู้หญิงที่บ้านพักคนชรา ส่วนไนล์สและดาฟนี่ออกเดทกันอีกครั้ง

เฟรเชอร์เป็นที่ปรึกษาให้กับเศรษฐีผู้เลียนแบบทุกอย่างที่เขาทำ

ความตึงเครียดเพิ่มขึ้นขณะที่เมลทำให้ไนล์สอับอายต่อหน้าผู้คนก่อนที่เธอจะยอมหย่ากับเขา ในที่สุดเขาก็ทนกับการดูถูกของเธอไม่ได้อีกต่อไป แล้วสถานการณ์ก็ปะทุขึ้นที่งานปาร์ตี้

ดอนนี่ถอนฟ้องเฟรเชอร์และดาฟนี่เพราะเขาได้พบกับผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่เขาตัดสินใจจะแต่งงานด้วย เฟรเชอร์ออกเดทกับแอบบี้ ทนายความของเขา แต่เขาดันกล่าวหาเธอว่าเธอคิดค่าบริการทางกฎหมายแพงเกินไป

เฟรเชอร์หักหลังรอซด้วยการเป็นเพื่อนกับแฟนเก่าที่นอกใจเธอ

เฟรเชอร์เป็นเจ้าภาพร่วมขบวนพาเหรดวันคริสต์มาสของซีแอตเทิลกับคู่แข่งรายวิทยุของเขาอย่างไม่เต็มใจ

เฟรเชอร์ได้รับรางวัลความสำเร็จสูงสุด มาร์ติน พ่อของเขารับรางวัลแทนเนื่องจากเฟรเชอร์ออกไปวิเคราะห์ชีวิตของตัวเองกับศาสตราจารย์ทิวส์เบอร์รี่ อาจารย์ที่ปรึกษาคนเก่าของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด

เฟรเชอร์ไปตั้งแคมป์กับพ่อและลูกชายวัยรุ่น

เฟรเชอร์และไนล์สกลับไปที่โรงเรียนเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับกลไกยานยนต์

เฟรเชอร์และไนล์สพยายามฟื้นอาชีพนักแสดงไอดอลจากละครเชกสเปียร์ในวัยเด็กของพวกเขา แต่แล้วก็พบว่าเขาไม่ได้มีดีอะไรเลย

ชะตากรรมการเดตของเฟรเชอร์อธิบายได้ว่าเป็นจักรวาลคู่ขนาน

ไนล์สและดาฟนี่ตัดสินใจลดน้ำหนัก รอซลองน้ำหอมฟีโรโมนตัวใหม่ที่ดึงดูดผู้ชาย เฟรเชอร์ออกเดทกับไอลีนภรรยาของเคนนี่

หลังจากไนล์สทำคะแนนได้อย่างเหลือเชื่อด้วยการโยนลูกครึ่งสนาม เฟรเชอร์ก็พบว่าเขาอยู่ไม่ได้แล้ว

รอซทำสารคดีเกี่ยวกับอวกาศร่วมกับวุฒิสมาชิก จอห์น เกล็นน์ ส่วนไนล์สเรียนรู้การเล่นว่าว

เฟรเชอร์และไนล์สกดดันแฟนสาวผู้มั่งคั่งของมาร์ตินให้ช่วยเหลือโรงเรียนประถมของพวกเขาจากการล้มละลาย

เฟรเชอร์ออกจากสโมสรไวน์ของเขาเพื่อมาเป็นพิธีกรรายการวิทยุใหม่ที่ชื่อว่า "มุมคอไวน์" และโกรธมากเมื่อรู้ว่าไนล์ส "เจ้าแห่งจุกไวน์" จอมเจ้ากี้เจ้าการไม่พอใจและสั่งห้ามไม่ให้สมาชิกเก่าของสโมสรเข้าร่วมในรายการนี้

ไนล์สและดาฟนี่ "จริงจัง" เรื่องความรักของพวกเขา

ดาฟนี่พยายามพิสูจน์ให้ไนล์สเห็นว่าเธอมีพลังจิต และเฟรเชอร์มีปัญหาเมื่อรู้ว่ารอซมีความสัมพันธ์กับอาจารย์ที่ปรึกษาของเขา

เฟรเชอร์ได้พบกับเพื่อนเก่าสมัยมัธยมปลายและพบว่าเขาหลงใหลในเพื่อนของเธอ แคลร์

เฟรเชอร์ติวหนังสือให้ลูกชายของลาน่าเพื่อแลกกับการไปเดตกับแคลร์ มาร์ตินไปงานปาร์ตี้สุนัข และดาฟนี่กับไนล์สมีปัญหาในการนอนร่วมเตียงเดียวกัน

ไนล์สหึงหวงถ่านไฟเก่าของดาฟนี่ที่สวนสาธารณะสุนัข เฟรเชอร์สอนลาน่าเกี่ยวกับความซื่อสัตย์ในการขายอสังหาริมทรัพย์ที่มีปัญหา และมาร์ตินไปเข้าร่วมการพิจารณาทัณฑ์บนของชายที่ยิงเขาอย่างลับๆ

แผนการพักผ่อนวันหยุดของเฟรเชอร์กับแคลร์พังทลายลงเมื่อดาฟนี่ ไนล์ส และมาร์ตินปรากฏตัวขึ้นที่รีสอร์ทเดียวกัน และเฟรเชอร์เริ่มฝันถึงลาน่า

เฟรเชอร์มีปัญหากับการตัดสินใจเลือกผู้หญิงคนใดคนหนึ่ง และสุดท้ายเขาก็เสียพวกเธอไปทั้งคู่ ไนล์สไปที่ชายหาดใกล้บ้านแล้วเปลือยกายด้วยความผิดพลาด

เพราะความเสียใจจากความสัมพันธ์ที่เพิ่งจบลง เฟรเชอร์จึงเดินทางไปที่ชนบทเพื่อหาความเงียบสงบ แต่เขากลับต้องเผชิญหน้ากับความสัมพันธ์อันล้มเหลวในอดีตที่ตามมาหลอกหลอน

ดาฟนี่ทุกข์ใจจากความหึงหวงเมื่อรู้ว่าคนไข้ของไนล์สตกหลุมรักเขา ส่วนเฟรเชอร์และมาร์ตินก็ทำทุกวิถีทางเพื่อจับจิ้งหรีดที่ซ่อนตัวอยู่ในอพาร์ตเมนท์

งานใหม่ของมาร์ตินทำให้นึกถึงอดีตที่ผ่านมา

รอซต้องเผชิญหน้ากับความเย่อหยิ่งของตัวเธอเองเมื่อออกเดตกับคนเก็บขยะ แผนของเฟรเชอร์ที่จะโน้มน้าวให้เพื่อนร่วมงานเห็นว่าเขาไม่ใช่คนหยิ่งยโสกลับล้มเหลวเมื่อเขากลายเป็นคนที่ได้รับความสนใจมากกว่าที่ต้องการ

เกมปาร์ตี้แนวจิตวิทยาของเฟรเชอร์ทำให้เกิดการเปิดเผยที่ไม่พอใจในงานปาร์ตี้ฮาโลวีน ไนล์สแต่งตัวเป็นมาร์ตินและเมาเบียร์ เด็กๆ ในอพาร์ตเมนต์เชื่อว่าเฟรเชอร์กินสมองเด็ก

ในวันครบรอบ 8 ปีที่อยู่ด้วยกัน เฟรเชอร์เผลอไปทำลายเก้าอี้ของมาร์ตินโดยไม่ได้ตั้งใจ ไนล์สค้นพบว่าดาฟนี่ไม่มีพรสวรรค์ด้านดนตรีเลยซักนิด

Aired directly after "Frasier"'s 200th episode, Bob Costas interviews the five cast members about their thoughts on the 200 episodes, including seeing scenes from previous episodes and outtakes selected by the cast.

เฟรเชอร์หมกมุ่นในการหาเทปมาแทนที่เทปที่หายไปในคอลเลกชันรายการวิทยุทั้งหมด 2,000 ตอนของเขา

ความดันและอารมณ์พุ่งสูงขึ้นเมื่อเด็กฝึกงานกลายเป็นเบี้ยในสงครามระหว่างเฟรเชอร์และไนล์สเพื่อทัวร์ชมห้องเก็บไวน์