ไม่มีใครเชื่อเฟรเชอร์เลย เมื่อเขาอ้างว่ากำลังออกเดทกับนางแบบชื่อดัง (เซล่า วอร์ด ดารารับเชิญ)

การแข่งขันของพี่น้องระหว่างเฟรเชอร์และไนล์สถึงจุดเดือดเมื่อพวกเขาพยายาม "ข่มกัน" กับของขวัญวันเกิดครบรอบ 65 ปีของมาร์ติน พ่อของพวกเขา

งานปาร์ตี้แต่งตัววันฮาโลวีนของไนล์สกลายเป็นเรื่องตลก เมื่อเขาเข้าใจผิดคิดว่าดาฟนี่ท้อง และเฟรเชอร์เป็นพ่อของเด็ก

เฟรเชอร์ตกตะลึงเมื่อเขารู้ตัวตนที่แท้จริงชายผู้เป็นพ่อของลูกของรอซ

เพื่อให้ไนล์สเลิกคิดถึงปัญหาชีวิตแต่งงาน เฟรเชอร์จึงชวนเขาไปล่องเรือในอลาสก้า แต่กลับไม่บอกไนล์สว่าเขาชวนมาริสไปเป็น "เซอร์ไพรส์" ด้วย

เฟรเชอร์ตกหลุมรักทนายความผู้ทรงอำนาจ ซึ่งประสบความสำเร็จในอาชีพการงานและทัศนคติแบบเอาตัวเองเป็นหลักนั้นเปลี่ยนเฟรเชอร์ให้กลายเป็น "คนอ่อนด๋อย" ไปเลย

เมื่อเฟรเชอร์ถูกแซมแฟนสาวผู้ทรงอำนาจ "ทิ้ง" เขากลับก็ทำตัวโง่เง่าเพียงเพื่อให้ได้เธอกลับมา

ถือเป็นวันคริสต์มาสที่ต้องจดจำเมื่อมาร์ตินร้องเพลงในการประกวดที่โบสถ์ ไนล์สติดอยู่ในลิฟต์ และเฟรเชอร์เล่าเรื่องที่รอซท้องให้แม่ของเธอฟัง

ความพยายามของดาฟนี่ที่จะทำให้เฟรเชอร์รู้สึกดีขึ้นด้วยการพาเขาไปผับชาวอังกฤษที่เธอชื่นชอบกลับกลายเป็นผลตรงกันข้ามเมื่อเฟรเชอร์ตัดสินใจมาเป็นขาประจำที่กลุ่มเที่ยว "ของเธอ"

เมื่อเจอแหวนหมั้นที่ซ่อนอยู่ในลิ้นชักของพ่อทำให้ไนล์สและเฟรเชอร์ต้องสืบสวนอดีตของเชอร์รี่ ก่อนที่มาร์ตินจะมีโอกาส "ถามคำถาม"

ด้วยความเอือมระอากับบีบี้ ตัวแทนแสนโหดเหี้ยม ไม่นานเฟรเชอร์ก็ได้เรียนรู้ถึงการจ้างตัวแทนที่ "ดี" นั้นมีราคาสูงเพื่อเป็นตัวแทนของเขาในการเจรจาสัญญา

ไนล์สต้องตกใจเมื่อพบว่าที่ปรึกษาชีวิตคู่ที่เขาไว้ใจมีสัมพันธ์ชู้สาวกับมาริสลับหลังเขา

ทริปเล่นสกีช่วงสุดสัปดาห์กลายเป็นแหล่งรวมเรื่องราวสุดโรแมนติกของเฟรเชอร์ ไนล์ส และผองเพื่องของพวกเขา

การมาเยี่ยมอย่างไม่คาดคิดของลิลิธ (เบบ นิวเวิร์ท ดารารับเชิญ) ปลุกเร้ากิเลสเก่าๆ ในตัวเฟรเชอร์และกิเลสใหม่ในตัวไนล์ส

การจุดประกายไฟเมื่องานแต่งงานของครอบครัวกลับเป็นตัวจุดชนวนความบาดหมางอันยาวนานระหว่างเฟรเชอร์และป้าโซราชาวกรีกขี้โมโห (แพตตี ลูโพน์ ดารารับเชิญ)

สถานีวิทยุจ้างแพทย์สุดหล่อคนใหม่มาจัดรายการทางการแพทย์แบบโทรเข้า เฟรเชอร์ผู้มีอีโก้ ตั้งใจที่จะค้นหาข้อบกพร่องในตัวเพื่อนร่วมงานคนใหม่ของเขาที่ดูเหมือน "สมบูรณ์แบบเกินไป" หน่อย

เมื่อบูลด็อกแย่งเครดิตมาอย่างผิดๆ จากการขัดขวางการปล้นและช่วยชีวิตรอซ เฟรเชอร์จึงตั้งใจที่จะ "จัดการ" บูลด็อก

เฟรเชอร์ต้องเลือกระหว่าง "ราคะ" สำหรับการเผด็จศีกครั้งล่าสุดของเขาและการตระหนักว่าพวกเขาไม่มีอะไรที่เหมือนกันนอกจากเซ็กส์อันสุดเหวี่ยง

ไนล์สขอให้ดาฟนี่ช่วยเขาวางแผนเดตอาหารค่ำปลอมๆ กับเพื่อนบ้าน เพื่อที่เธอจะได้ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วเขาแคร์เธอมากแค่ไหน

รอซกังวลเกี่ยวกับชะตากรรมของลูกคนใหม่ของเธอ เมื่อเธอพบว่าปู่ย่าของลูกมีจมูกที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็นมา

ด้วยความสิ้นหวังที่จะสานสัมพันธ์ความรัก เฟรเชอร์และไนล์สร่วมกันจัดงานปาร์ตี้คนโสดและลงเอยด้วยการแย่งชิงความรักจากผู้หญิงคนเดียวกัน

เฟรเชอร์พยายามอยู่ในสถานที่สามแห่งพร้อมๆ กันในขณะที่เขาพยายามทำให้แฟนสาว น้องชาย และพ่อของเขามีความสุข

เมื่อเฟรเชอร์เป็นผู้นำการประท้วงเรียกร้องให้มีการปฏิบัติต่อพนักงานในสถานีวิทยุให้ดีขึ้น หัวหน้าของบริษัทแม่ของสถานีก็ไล่พวกเขาออกทุกคน