แม้ว่าแคว้นฉินจะดูมีเสถียรภาพ แต่ทหารของเถิงก็นำข่าวมาบอกซิ่นว่า พายุร้ายครั้งใหม่อาจใกล้ปะทุ ต่อมากองทัพฉู่บุกโจมตีฐานที่มั่นของฉินแบบไม่ทันตั้งตัว

ไซตากุติดต่อไปหาฉีพร้อมข้อเสนอ หลังเจอภัยคุกคามจากกองกำลังผสมฝ่ายใหม่ ส่วนชินทะยานเข้าสู่สนามรบโดยไม่รู้เรื่องสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

หลี่มู่ต้อนรับขุนพลแห่งกองทัพพันธมิตร พร้อมประกาศโครงสร้างการบัญชาการใหม่ที่ไม่มีใครคาดคิด ด้านแคว้นฉินวางแผนเสี่ยงเพื่อปกป้องเมืองเสียนหยาง แต่ซิ่นกลับเห็นต่าง

ขณะที่สงครามที่หานกู่กวนเริ่มต้นขึ้น แผนการของหลี่ไป๋ทำให้เตียวคาดไม่ถึง ส่วนซิ่นไล่ตามทัพเปียวกงมาจนทัน ด้านเปียวกงสังเกตเห็นว่าสมรภูมิมีบางอย่างขาดหายไป

เหมิงอ้าวและคนอื่นๆ ที่อยู่บนกำแพงต่างตกตะลึงเมื่อเห็นหอคอยรถศึกในสนามรบ แต่หวนฉีคิดกลยุทธ์ตอบโต้ได้ทัน

แม่ทัพว่านจี๋แห่งจ้าวเล่าว่ากองทหารจำนวนสี่แสนคนถูกไป๋ฉี่สังหารหมู่ที่ฉางผิง ส่วนเตียวและกองกำลังเฟยซิ่นรีบรุดมาช่วยซิ่นทำศึก

เปียวกงไปเยือนค่ายทหารของซิ่นและสัญญาว่าจะนำทหารมาเสริมกำลัง เช้าวันต่อมานายพลหญิงวาหลินที่น่าเกรงขามกล่าวตำหนิหน่วยของไป๋หลี่อย่างไม่เกรงใจ

เมื่อสงครามยังคงยืดเยื้อ เหล่าอัครเสนาบดีแห่งแคว้นฉินจึงหารือกันเกี่ยวกับเป้าประสงค์ของฝ่ายตรงข้าม ด้านหลี่มู่สั่งให้กองทัพพันธมิตรทุ่มโจมตีแบบหมดหน้าตัก

เมื่อช้างศึกของนายพลวาหลินเดินทัพเข้าสู่สนามรบ ลู่อูเว่ยและกองกานยางพยายามต้านสัตว์ร้ายอย่างสุดกำลัง แต่เถิงกลับตกอยู่ในวงล้อมของศัตรูอย่างรวดเร็ว

จางถังและหวนฉีตัดสินใจลงจากกำแพงเพื่อแฝงตัวปะปนไปกับทหารเว่ย ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังค่ายทหารของกองทัพหานเพื่อจัดการเฉิงฮุย

ขณะทำศึกกับกองกำลังของอู้หลู่ตัวบนภูเขา กองทหารของหวังเจี่ยนก็เปลี่ยนแผนอย่างไม่คาดคิด ด้านเซี่ยงอี้นำกำลังทหารห้าพันนายบุกโจมตีเถิง

ทหารของเหมิงอู่ต่อสู้กับกองทัพของฮั่นหมิงอย่างกล้าหาญทว่าเริ่มอ่อนแรง ส่วนเหมิงอู่มองหาจังหวะก่อนจะนำทหารที่เหลือเดินหน้าเข้าประจัญบาน

ขณะที่นายพลฮั่นหมิงแห่งแคว้นฉู่และเหมิงอู่ยังผลัดกันรุกผลัดกันรับ วาหลินส่งน้องชายเข้าไปลอบทำร้ายเหมิงอู่ข้างหลัง แต่เหมิงเถียนรีบรุดเข้ามาขวาง

ขณะที่กองทัพแคว้นฉินพยายามต่อสู้เพื่อปกป้องหานกู่กวน หน่วยทหารยอดฝีมือของแคว้นฉู่ก็นำกำลังเข้าโจมตีจากด้านหลัง และเข้ามาร่วมเสริมทัพเว่ยเพื่อหาทางทำลายประตูเมือง

ขุนศึกแห่งกองทัพพันธมิตรรวมตัวกันเพื่อประเมินสถานการณ์แม้จะไม่มีหลี่มู่ จากนั้นบรรดากุนซือแห่งแคว้นฉีก็ได้รับข่าวว่ามีภัยคุกคามประชิดเข้ามาจากทางใต้

หลังจากฝ่าวงล้อมของหลี่มู่ออกมาได้ เปียวกงก็เผชิญหน้ากับหลี่มู่ด้วยตัวเอง แต่นักรบที่น่าเกรงขามซึ่งเป็นที่รู้จักดีได้เดินทางมาถึงและขอท้าประลองกับเปียวกง

ขณะที่เมืองเสียนหยางตกอยู่ในภาวะสับสน อิ๋งเจิ้งตัดสินใจยอมเสี่ยงครั้งใหญ่เพื่อรักษาอาณาจักรไว้ ส่วนกองทัพที่เหนื่อยล้าและบาดเจ็บของซิ่นเดินทางมาถึงประตูเมืองจุ้ยในที่สุด

เพื่อสกัดกั้นกองทัพของหลี่มู่ที่กำลังเดินหน้าเข้ามา อิ๋งเจิ้งจึงปลุกขวัญชาวเมืองจุ้ยที่ตื่นตระหนกให้ฮึกเหิม และร่วมกันต่อสู้เพื่อปกป้องเมือง

หน่วยของซิ่นและทหารพลเรือนพยายามปกป้องกำแพงด้านใต้ ขณะที่นายพลไป๋แห่งแคว้นฉินพยายามรักษากำแพงเมืองด้านตะวันออกด้วยทหารของกองทัพเปียวกงที่เหลืออยู่

ขณะประลองกับฟู่ตี่ ซิ่นก็นึกถึงคำแนะนำของเชียงฮุ่ยขึ้นมาได้ ในคืนนั้นทหารหลี่มู่ต่างช่วยกันส่งเสียงดังอึกทึก เพื่อไม่ให้ทหารฉินได้หลับพักผ่อน

หลังจากสถานการณ์เมืองจุ้ยตกอยู่ในภาวะคับขัน ชางเหวินจวินยืนกรานให้อิ๋งเจิ้งหลบหนี ด้านหลี่มู่ประกาศให้ทหารจับตัวต้าอ๋องให้ได้ ก่อนสั่งโจมตีเมืองให้ราบเป็นหน้ากลอง

ชะตาของเมืองจุ้ยยังไม่ขาด หลังได้รับความช่วยเหลืออย่างไม่คาดคิดจากบนเขา ฝ่ายผังหน่วนปรากฏตัวขึ้นก่อนที่หลี่มู่จะมีโอกาสสั่งการกองทัพ

แม้ว่าซิ่นจะบาดเจ็บหนัก แต่ก็สามารถฟาดฟันจนผังหน่วนหงายหลัง ฝ่ายผังหน่วนเองก็ตกใจเพราะนึกไม่ถึง จากนั้นจิ้นเฉิงฉางปรากฏตัวต่อหน้าทั้งคู่พร้อมคำสั่งจากหลี่มู่

ต้าอ๋องปูนบำเหน็จรางวัลอย่างงามให้ทุกคนที่ต่อสู้อย่างกล้าหาญเพื่อแคว้นฉิน ด้านเชียงฮุ่ยได้พบกับสมาชิกในตระกูลอีกคนที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในแคว้นจ้าว

เชียงฮุ่ยที่ต้องการแก้แค้นให้พี่สาวตัดสินใจเผชิญหน้ากับโยวเหลียนผู้เหี้ยมโหด ที่ลงมือฟาดฟันอย่างหนักแบบไม่ยั้ง ขณะที่เซี่ยงหมิงได้แต่เฝ้าดูด้วยความหวาดกลัว