ในปี 1986 มัดส์น้องชายของอูลริคหายตัวไปได้หนึ่งเดือนแล้ว ทุกสิ่งช่างดูสับสนเมื่ออดีตและปัจจุบันมาบรรจบกัน

อูลริคตัดสินใจฝ่าฝืนกฎหมาย ในขณะเดียวกันเฮลเกพยายามที่จะหลบเลี่ยงเอกอน ทีเดอมันน์ ส่วนเคลาเดียใช้ประโยชน์จากพลังของถ้ำ และคาธารีน่าระเบิดอารมณ์ใส่ฮันนาห์

ปีเตอร์ได้รู้เรื่องที่ทำให้ช็อค ส่วนโยนัสค้นพบความจริงเกี่ยวกับครอบครัว แต่ทว่าเรื่องเซอร์ไพรส์ยังไม่หมดแค่นั้น เฮลเกตัดสินใจยอมเสียสละ

เคลาเซนกับชาร์ล็อตเทอสัมภาษณ์เรกีนา คนแปลกหน้าพาฮันนาห์กลับไปที่ปี 1987 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เคลาเดียพบสิ่งที่น่าตกใจ ส่วนเอกอนไปเยี่ยมคู่อริเก่า

ในปี 1954 เฮลเกที่หายตัวไปได้กลับมา แต่เขาไม่พูดกับใครนอกจากโนอาห์ ในปี 1987 เคลาเดียนำเครื่องข้ามเวลาไปหาทันน์เฮาส์ ส่วนเอกอนตั้งคำถามอูลริคอีกครั้ง

โยนัสพบชายที่น่าสะพรึงกลัว ขณะที่พวกเด็กๆ ออกค้นหาคำตอบในถ้ำ พวกผู้ใหญ่ก็มารวมตัวกันที่บังเกอร์เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลที่รู้มาเกี่ยวกับนักเดินทาง

ในปี 1987 อูลริคคว้าโอกาสที่มาถึงตัว พวกเด็กๆ กลับไปที่ถ้ำพร้อมกับเครื่องข้ามเวลา และโยนัสพบช่องโหว่ที่อาจเปลี่ยนอนาคตได้

มาร์ธาพบกับคนแปลกหน้าและได้รู้ตัวตนที่แท้จริงของเขา เคลาเดียพยายามยับยั้งไม่ให้เอกอนเสียชีวิตในปี 1987 ฮันนาห์เดินทางไปยังปี 1954 เพื่อไปหาอูลริค

ในวันสิ้นโลก เคลาเซนออกหมายค้นที่โรงไฟฟ้า ในขณะที่โยนัสกับเคลาเดียใช้เครื่องข้ามเวลาเพื่อเชื่อมโยงอดีตและอนาคตเข้าด้วยกัน

มาร์ธาข้ามเวลาไปปี 1888 เพื่อเตือนเพื่อนๆ ถึงหายนะในปี 2020 ส่วนชาวเมืองวินเดนก็ข้ามเวลาออกตามหาคนรักที่หายตัวไปทั้งในอดีตและปัจจุบัน

ในปี 2020 ผู้มาเยือนเตือนภัยเคลาเดีย 1 วันก่อนวันสิ้นโลก โยนัสเริ่มสงสัยเจตนาของเอวา

อดัมจับมาร์ธาไปขังไว้เป็นตัวประกัน มาร์ธาที่ใกล้จะเสียสติเมื่อถึงวันสิ้นโลก ได้ขอร้องให้บาร์โทสซ์ช่วย

ชาวเมืองวินเดนยังคงดั้นด้นเดินทางข้ามศตวรรษเพื่อทำภารกิจพลิกชะตาและช่วยคนที่ตัวเองรัก

เคลาเดียเผยให้อดัมรู้ว่าทุกอย่างเชื่อมโยงกันอย่างไร และเขาจะทำลายปมนั้นได้อย่างไร