ดีโอ บรันโดเข้ามาอยู่ร่วมกับตระกูลอันสูงศักดิ์หลังจากการเสียชีวิตของพ่อ และเขาสาบานว่าจะช่วงชิงทุกอย่างจากทายาทอย่างโจนาธาน "โจโจ้" โจสตาร์มาให้จงได้

โจโจ้พบหัวหน้าแก๊งที่มีชื่อว่าสปีดแวกอน ระหว่างที่ไปลอนดอนเพื่อสืบสวนเรื่องดีโอวางยาพิษพ่อของเขา

หลังจากมอบยาถอนพิษให้พ่อแล้ว โจโจ้เผชิญหน้ากับดีโอซึ่งตั้งใจใช้มีดจู่โจมทำร้ายโจโจ้ ซ้ำยังใช้หน้ากากศิลาเพิ่มพลังให้ตนเอง

โจโจ้ได้พบกับเอรีน่า รักแรกของเขาอีกครั้ง และชายผู้มีนามว่าวิล เอ เซพเพลีได้สาธิตพลังแปลกประหลาดและบอกกับโจโจ้ว่าเขาจะต้องทำลายหน้ากากศิลาให้ได้

เพราะถูกเด็กหนุ่มชื่อโพโกลวงให้เข้าไปในสุสาน โจโจ้และพรรคพวกจึงถูกดีโอกับฝูงซอมบี้ซุ่มโจมตี

อัศวินรัตติกาลบรูฟอร์ดฟื้นคืนชีพพร้อมวิญญาณมนุษย์ของตนเอง และได้มอบดาบของเขาให้กับโจโจ้ จากนั้นทาร์คัสก็ใช้พลังอันมหาศาลของเขาโจมตีโจโจ้

แม้จะรู้ดีถึงชะตาชีวิตอันริบหรี่ แต่เซพเพลีก็เลือกเผชิญหน้ากับทาร์คัสและใช้กำลังทั้งหมดที่ยังเหลือส่งต่อพลังให้กับโจโจ้ ซึ่งเป็นผู้สืบทอดของเขา

โจโจ้ช่วยชีวิตพี่สาวของโพโก แต่ไดร์เพื่อนของเซพเพลีกลับถูกดีโอทำลายจนสิ้นซาก จากนั้นโจโจ้ซึ่งตอนนี้มีดาบของบรูฟอร์ดอยู่ในมือก็ได้เผชิญหน้ากับดีโออีกครั้งหนึ่ง

โจโจ้และเอรีน่าออกเดินทางไปฮันนีมูนหลังจากงานแต่งงาน แต่โจโจ้ต้องช็อกสุดขีดเมื่อเห็นลูกน้องคนหนึ่งของดีโอปรากฏตัวขึ้นมาบนเรือ

ในปี 1938 มีการค้นพบหน้ากากศิลาจำนวนมากในซากปรักหักพังแห่งหนึ่งของเม็กซิโก ขณะเดียวกันในนิวยอร์ก โจเซฟซึ่งเป็นหลานของโจโจ้ได้ช่วยเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ชื่อสโมคกี้เอาไว้

โจเซฟต่อสู้กับสเตรโซที่กลายเป็นแวมไพร์หลังจากหักหลังสปีดแวกอนเพื่อนของเขา หลังการต่อสู้สิ้นสุด สเตรโซก็ได้เตือนเขาเรื่อง “มนุษย์เสาหิน”

โจเซฟถูกลูกน้องคนหนึ่งของสโตรไฮม์โจมตีหลังมาถึงเม็กซิโก ขณะเดียวกันสโตรไฮม์พยายามที่จะปลุกมนุษย์เสาหินซานตาน่าให้ตื่นขึ้นมา

โจเซฟใช้พลังฮามอนเพื่อหนีออกมาจากร่างของซานตาน่าที่เขาถูกดูดเข้าไป แต่เมื่อทำไม่สำเร็จ เขาก็ตัดสินใจพยายามพาร่างซานตาน่าออกไปกลางแจ้งเพื่อรับแสงแดด

หลังจากโจเซฟและสปีดแวกอนได้รู้เรื่องมนุษย์เสาหินและเดินทางไปยังกรุงโรม พวกเขาก็ได้พบกับซีซาร์หลานชายของเซพเพลีที่นั่น

การโจมตีด้วยท่าคลื่นฟองอากาศของซีซาร์ เซพเพลีทำอะไรมนุษย์เสาหินวามูไม่ได้แม้แต่น้อย และซีซาร์ยังได้รับบาดเจ็บอีกด้วย ขณะเดียวกันโจเซฟเผยเทคนิคลับที่เขาเพิ่งพัฒนาได้

ซีซาร์พาโจเซฟไปที่เมืองเวนิสและแนะนำให้รู้จักกับลีซ่า ลีซ่าผู้เป็นอาจารย์ที่เริ่มสอนให้เขาควบคุมพลังฮามอนอย่างเอาจริงเอาจัง

ลีซ่า ลีซ่าบอกกับโจเซฟว่า หากต้องการทำลายพวกมนุษย์เสาหินจะต้องใช้อัญมณีที่เรียกว่า “สุดยอดศิลาแดงเอจา” หลังจากนั้นโจเซฟและซีซาร์ต้องสู้กับอาจารย์ผู้ควบคุมพลังฮามอนคนอื่นๆ

โจเซฟและซีซาร์รวมพลังฮามอนกันเพื่อสู้กับมนุษย์เสาหินที่สิงร่างซูซี่ คิวเพราะต้องการขโมยศิลาแดงเอจา

สโตรไฮม์เริ่มต้นต่อสู้กับคาร์สในร่างกลใหม่ของเขา ขณะเดียวกันโจเซฟและคาร์สพลัดตกจากหน้าผาในระหว่างที่พยายามจะหยิบศิลาแดง

ซีซาร์มาถึงที่ซ่อนของศัตรูพร้อมแผนโจมตีใหม่ที่ซ่อนไว้เมื่อลีซ่า ลีซ่าเปิดเผยอดีตของเขากับโจเซฟ

ลีซ่า ลีซ่ามีแผนอันชาญฉลาดพร้อมสำหรับการรับมือ เมื่อเธอกับโจเซฟพบวามูและคาร์สรออยู่ที่โรงแรมพร้อมกับลูกสมุนแวมไพร์นับร้อย

โจเซฟและวามูเริ่มการแข่งขันบนรถม้าท้าความตายที่สนามประลองโบราณ แต่แทนที่จะได้เลือกอาวุธชิ้นแรก โจเซฟกลับพบว่าเขากำลังตกอยู่ในสถานการณ์คับขันและอันตราย

โจเซฟเผชิญกับการโจมตีครั้งสุดท้ายของวามูด้วยผ้าโพกหัวของซีซาร์ที่ลุกเป็นเพลิง ในขณะเดียวกันที่วัดร้าง ลีซ่า ลีซ่าท้าดวลแบบตัวต่อตัวกับคาร์ส

โจเซฟพยายามอย่างสุดชีวิตเพื่อยื้อชีวิตของลีซ่า ลีซ่า และหลังการต่อสู้ สปีดแวกอนก็เปิดเผยเรื่องราวในอดีตของลีซ่า ลีซ่าออกมา

ศิลาแดงทำให้คาร์สล่องหนหายตัวได้ ขณะเดียวกันโจเซฟขึ้นเครื่องบินไปที่ภูเขาไฟเพื่อล่อคาร์สไปสู่ความตายที่ลุกเป็นไฟ

คาร์สผุดขึ้นมาจากลาวาร้อนและฟันแขนของโจเซฟขาด จากนั้นโจเซฟก็กำศิลาแดงไว้แน่นด้วยสัญชาตญาณเพื่อรอรับพลังตัดสินชะตาลูกใหญ่จากคาร์ส